กิน โลว์คาร์บ คือ กินแป้งน้อยจะเป็นอะไรใหม

สูตรการกินอาหารเพื่อลดความอ้วน ลดน้ำหนัก ไดเอทน้ำหนักมีเยอะมากมาย เราสามารถเลือกวิธีการได้ตามแนวคิดหรือความถนัดของตัวเองได้เลย ซึ่งบางแนวคิดอาจจะฟังดูยาก แต่เชื่อเหอะว่าสามารถทำแล้วลดน้ำหนักแน่นอน

กิน โลว์คาร์บ คืออะไร

โลว์คาร์บ
โลว์คาร์บ

แนวทางลดน้ำหนักด้วย โลว์คาร์บ คืออะไร คำตอบก็คือ เป็นการลดน้ำหนักด้วยการพร่องแป้ง อธิบายให้เป็นภาษาไทยอีกทีมันเป็นวิธีการลดน้ำหนักด้วยการลดปริมาณแป้ง(คาร์โบไฮเดรต) เข้าสู่ร่างกายให้น้อยที่สุด เราจะลดอาหารพวกแป้งอย่าง ข้าว แป้ง เมล็ดถั่ว ธัญพืช หัวเผือก มัน แล้วหันไปรับประทานอาหารกลุ่มอื่นอย่าง พวกโปรตีน ไขมัน แทนเมื่อลดแป้งลง น้ำตาลเข้าสู่ร่างกายน้อยก็จะทำให้ร่างกายน้ำหนักลดลงได้

อาหารในกลุ่มโลว์คาร์บ

หากเราไม่กินอาหารพวกประเภทแป้งเป็นหลักแล้วจะกินอาหารอะไรแทนได้ คำตอบก็คือ การกินโลว์คาร์บ จะไปเน้นอาหารกลุ่มโปรตีนแทน อย่างเนื้อปลา ไข่ ผักใบเขียวแทน เพื่อให้รับปริมาณอาหาร สารอาหารจากกลุ่มนั้นแทน กินอย่างอื่นให้มากที่สุด เพื่ออิ่มให้มากที่สุด จะได้กินแป้งได้น้อยที่สุดว่าอย่างนั้น คำว่ากิน โลว์คาร์บ ไม่ได้หมายถึงไม่กินแป้งเลย แต่กินแป้งให้น้อยที่สุด สูตรที่แนะนำ ควรรับประทานคาร์โบไฮเดรตไม่เกิน 65% ของพลังงานที่ได้ในแต่ละวัน ยกตัวอย่างเช่น หากเราต้องการพลังงานวันละ 2,000 แคลลอรีต่อวัน ก็อาจจะกินคาร์โบไฮเดรตประมาณ 1,000-1,3000 แคลลอรีต่อวัน คิดเป็นปริมาณก็อยู่ที่ 350 กรัมต่อวันเท่านั้น

กฎเหล็กของการวิธีโลว์คาร์บ

การจะลดน้ำหนักด้วยวิธีการใดก็ตาม ต้องมีกฎเหล็กในการลดน้ำหนักด้วยเช่นกัน หากเราเลือกใช้วิธีโลว์คาร์บ เราขอมอบกฎเหล็ก 3 ข้อ ก็คือ หนึ่งเราต้องปรับเปลี่ยนวิธีการรับประทานอาหารด้วย ต้องเปลี่ยนด้วยการลดแป้งเติมผัก เติมโปรตีนเข้าไปแทนที่ สองต้องปรับอารมณ์ให้รับได้กับการกินแป้งน้อยลง หากเรามีความสุขเราก็สามารถทำมันได้เรื่อยๆ แต่หากปรับอารมณ์ไม่ได้กินได้ไม่เกิน 5 มื้อก็ไม่อยากกินแล้ว สามหากทำแล้วรู้สึกว่า กินแบบโลว์คาร์บเป็นสิ่งที่ดี เราต้องไปปรึกษาหมอ หรือ นักโภชนาการทางด้านอาหารเพื่อวางแผนร่วมกัน เนื่องจากบางคนมีโรคประจำตัวต้องปรึกษาหมอก่อนว่าวิธีนี้สามารถทำได้หรือไม่

ผลเสียจากการพร่องแป้ง

การลดปริมาณแป้งลงในการรับประทานนั้น สิ่งที่เกิดขึ้นกับร่างกายในช่วงแรกก็คือ ทำให้เกิดอาการปวดหัว เหนื่อยล้า หมดแรงได้(แป้ง น้ำตาลน้อย) ซึ่งเป็นช่วงเวลาของการปรับตัว บางรายอาจจะมีอาการท้องผูกร่วมด้วยเพราะขาดไฟเบอร์ ดังนั้นดูแลตัวเองด้วย ค่อยๆลดไปทีละนิด อย่าลดแบบหักดิบไม่งั้นอาจจะเกิดอันตรายได้