การออกกำลังกายตอนนี้กลายเป็นหัวข้อสำคัญของใครหลายคนไม่ว่าจะเป็นช่วงวัยรุ่น หนุ่มสาว วัยทำงาน หรือ วัยหลังเกษียณ ก็หันมาสนใจกิจกรรมเพื่อออกกำลังกายกันเยอะขึ้นมากทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น วิ่ง ขี่จักรยาย เล่นกีฬา หรือ แม้แต่เดินเพื่อออกกำลังกายก็มีด้วย ว่าแต่หากเราคิดจะออกกำลังกายเราควรจะออกกำลังกายเวลาไหนดี มาดูกัน

ออกกำลังกายเวลาไหนดี

สำหรับการออกกำลังกายนั้น หากไม่นับเรื่องของตารางเวลา ตารางชีวิตที่ไม่เหมือนกัน เอาเข้าจริงเราสามารถออกกำลังกายเวลาไหนก็ได้ ขอเพียงแค่ออกกำลังกายถือว่าดีหมด จะเป็นตอนเช้า สาย บ่าย เย็น ค่ำ หรือดึกๆก็ทำได้เหมือนกัน แต่สิ่งที่สำคัญเรื่องหนึ่งหากคิดจะออกกำลังกายในช่วงเวลาสาย เที่ยง หรือ บ่ายๆ เราขอแนะนำว่า ควรดูสภาพพื้นที่ไม่ควรไปออกกำลังกายในที่โล่งแจ้ง อาจจะทำให้เป็นลมแดดได้ แดดบ้านเราตอนช่วงเวลาดังกล่าวบอกเลยว่าร้อนมาก ถ้าจะให้แนะนำจริงๆควรจะเป็นช่วงเช้ามืด ถึงเช้า หรือไม่ก็ตอนเย็นจนถึงหัวค่ำจะดีที่สุด แดดร่มลมตกค่อยออกมาเล่นจะทำให้เราเล่นได้นานกว่า

ข้อดีข้อเสียของช่วงเวลาออกกำลังกาย

โดยทั่วไปการออกำลังกายส่วนใหญ่จะเลือกเป็นสองช่วง คือ เช้า กับ เย็น แต่ละอย่างก็ดีเสียแตกต่างกันไป หากเป็นตอนเช้าจะช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบเผาผลาญในร่างกาย ทำให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่าขึ้นพร้อมสำหรับการทำงาน แต่ข้อเสียร่างกายในตอนเช้าอาจจะยังไม่ตื่นตัวดีพอ หากวอร์มอัพไม่ดีอาจจะทำให้บาดเจ็บได้ ส่วนตอนเย็นข้อดีจะทำให้ร่างกายตื่นตัวเต็มทีออกกำลังกายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่า ช่วยผ่อนคลายความเครียดจากการทำงาน ลดความอยากอาหารมื้อเย็นได้ แต่ข้อเสียจะเป็นเรื่องสถานที่ที่จำกัด และหากไม่กะเวลาให้ดีออกกำลังกายตอนเย็นร่างกายจะ alert จนทำให้หลับยากด้วย

การเว้นระยะในการออกกำลังกาย

เรารู้กันไปเมื่อสักครู่ว่า ขอให้ออกกำลังกายเถอะ ตอนไหนก็ได้ แต่การออกกำลังกายมันก็มีข้อแนะนำบางอย่างเหมือนกัน หากคิดจะออกกำลังกายให้สนุก สดชื่น เราก็ต้องศึกษาสักหน่อย อย่างแรกเลย เราไม่ควรออกกำลังกายหลังจากความเหนื่อยล้าจากการทำงาน สองควรออกกำลังกายหลังจากรับประทานอาหารเบาๆมาแล้วอย่างน้อย 1ชั่วโมง แต่ถ้ากินมื้ออาหารหลัก ควรเว้นอย่างน้อย 2-3 ชั่วโมงเพื่อให้ร่างกายย่อยอาหาร ปรับสมดุล เอนไซม์ต่างๆให้เรียบร้อย หากออกกำลังกายก่อนอาจจะทำให้จุกจนเล่นไม่สนุกเอาได้

อย่าปล่อยให้ท้องว่างตอนออกกำลังกาย

หลายคนมักจะเลือกออกกำลังกายก่อนไปกินอาหารมื้อหลัก วิธีนี้ดี แต่ไม่ถูกทั้งหมด หากเราปล่อยให้ท้องว่างแล้วไปออกกำลังกายนอกจากจะทำให้เราหมดแรงได้ง่าย จนออกกำลังกายได้น้อยกว่าที่ควรจะเป็นแล้ว อาจจะทำให้ร่างกายหิวจนกินทุกอย่างที่ขวางหน้ามากกว่าเดิมอีก(นี่จึงเป็นสาเหตุที่ว่ายิ่งออกกำลังกายcแล้วทำไมน้ำหนักยิ่งเพิ่ม) ทางที่ดีก่อนออกกำลังกายควรรับประทานอาหารเบาๆ เล็กน้อยเพื่อให้มีแรงอย่างแครกเกอร์ นมพร่องมันเนย ก็ถือว่าโอเค พอย่อยแล้วเราไปออกจะทำให้เรารู้สึกมีแรงกระปรี้กระเปร่า สู้ต่อไปได้
ใช้เวลาออกกำลังกายแค่ไหน

ต่อมาหลายคนคิดว่าหากเราจะออกกำลังกาย เราควรออกแค่ไหน เท่าไร ถึงจะพอ ตรงนี้เราสามารถคิดเป็นตัวเลขแบบเวลาได้ง่ายๆว่า ควรจะออกกำลังกายวันละ 15-30 นาทีต่อวัน หรือคิดเป็นอย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์หากไม่มีเวลาอาจจะใช้การทำกิจกรรมอื่นเพื่อทดแทนได้อย่างการเดินขึ้นบันไดแทนลิฟต์ให้ได้สัก 10 นาทีต่อครั้งก็พอช่วยได้ อันนี้เป็นเคสทั่วไป แต่หากต้องการจะออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนักอาจจะต้องเพิ่มเวลาเป็น 30 นาทีต่อครั้งขึ้นไปต่อวัน